วิธีการเลือกลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก
คำนึงถึงคุณภาพเสียงเป็นอันดับแรก
เพราะลำโพงมีหน้าที่เล่นเสียงเพลง สิ่งแรกที่ต้องคำนึงจึงเป็น “คุณภาพเสียง” แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่ารุ่นไหนดีไม่ดี
เพราะไม่สามารถดูได้จากภายนอกหรือรับรู้ผ่านทางเว็บไซต์ขายของออนไลน์ได้ คำตอบคือ “ความถี่ที่ตอบสนองได้” และ “ระบบเสียง” ซึ่งระบุอยู่ในคำอธิบายสเปกของสินค้านั่นเองครับ
ตรวจสอบความถี่ที่ลำโพงตอบสนองได้
โดยทั่วไปค่าความถี่ที่ลำโพงตอบสนองได้จะอยู่ที่ 20 Hz – 20 kHz ถ้าใครชอบจังหวะร็อคหรือฮิปฮอปที่มีเสียงดนตรีต่ำ
ๆ ค่อนข้างเยอะ แนะนำให้เลือกรุ่นที่เล่นความถี่ได้ต่ำสุดน้อยกว่า 100 Hz แต่ถ้าชอบฟังดนตรีเสียงสูง ๆ
ก็เลือกรุ่นที่เล่นความถี่สูงสุดได้มากกว่า 30 kHz หรือมีเทคโนโลยีรองรับการเล่นในจังหวะดังกล่าว
เพื่ออรรถรสที่มากขึ้น
นอกจากนี้อีกหนึ่งสิ่งที่สามารถบอกคุณได้ คือ “รีวิว” โดยพยายามเลือกรุ่นที่คอมเมนต์ส่วนใหญ่บรรยายถึงลักษณะเสียงที่คุณชื่นชอบ
มากกว่าตัดสินว่ารุ่นนี้ดีหรือไม่ดีนะคะ
เพราะความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
เลือกระบบเสียง “โมโน” หรือ
“สเตอริโอ”
ระบบเสียงของลำโพงมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ แบบโมโนและสเตอริโอ
ถ้าต้องการคุณภาพเสียงมีมิติ ชอบฟังในสถานที่ปิดอย่างในห้องพักหรือบ้านเป็นหลัก
แนะนำแบบสเตอริโอเลยครับ แต่ถ้าเน้นพกพาสะดวก ไม่ได้เน้นเสียงมีมิติอะไรมาก
เลือกแบบโมโนก็เพียงพอแล้ว
อย่างไรก็ตาม ระบบโมโนนี้บางรุ่นถ้ามี 2 เครื่องสามารถนำมาเชื่อมต่อกันเพื่อเพิ่มคุณภาพเสียงให้มีมิติมากขึ้นได้อีกด้วยนะครับ แต่เพื่อความมั่นใจ ก่อนซื้อเพื่อน ๆ ลองสอบถามกับทางผู้ขายดูก่อนจะดีกว่า
เช็คเวอร์ชั่น
Bluetooth และความยากง่ายในการเชื่อมต่อ
Bluetooth มีอยู่หลายเวอร์ชั่นเลยค่ะ
เช่น 2.0,
2.1, 3.0, 4.0 ซึ่งตัวเลขที่มากขึ้นบ่งบอกถึงความเร็วในการรับส่งข้อมูล
แต่สำหรับการฟังเพลงถือว่าผลลัพธ์ไม่ต่างกันเท่าไรนัก
แต่ถ้าใช้เพื่อสนทนาหรือการตอบสนองแบบ Real time แนะนำให้เลือกรุ่นที่ตัวเลขมากเข้าไว้นะครับ
อีกหนึ่งสิ่งที่อย่าลืมคำนึงกันคือ “ความยากง่ายในการต่อ” ซึ่งตามปกติการจับคู่กันครั้งแรกจะกินเวลาเล็กน้อย
แต่ครั้งต่อ ๆ ไปจะสามารถเชื่อมต่อได้ทันที อย่างไรก็ตามบางรุ่นก็ไม่เสถียร
มักขาดการติดต่อได้ง่าย เพื่อน ๆ อย่าลืมอ่านจากรีวิวด้วยนะครับ
เกร็ดน่ารู้ : Bluetooth คนละ Version กัน ทำงานร่วมกันได้ไหม?
A : ได้ครับ แต่อาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เช่น Bluetooth ของสมาร์ทโฟนเป็นเวอร์ชั่น
4.0 ในขณะที่ลำโพงรองรับแค่ 2.0 ความเร็วสูงสุงในการรับส่งข้อมูลก็เทียบเท่ากับเวอร์ชั่น
2 หรือสมาร์ทโฟนบางรุ่นรองรับการส่งสัญญาณเสียงคุณภาพดี
(Bluetooth
APT-X) แต่ตัวรับไม่สามารถรับได้
ฟังก์ชั่นนี้ก็จะเปล่าประโยชน์
คำนึงถึงมาตรฐานการป้องกันฝุ่นและน้ำ
เพราะต้องพกพาไปใช้ตามสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะในอาคารหรือนอกสถานที่
อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้คือ “การกันฝุ่นและน้ำ” ซึ่งเพื่อน ๆ
อาจจะสงสัยกันว่าแล้วจะรู้ได้ยังไงว่ากันหรือไม่กัน ให้ดูที่มาตรฐาน IPX(ตัวเลข) และ IP(ตัวเลข)X โดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ
มาตรฐานรับรองการกันน้ำ หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า “IPX(ตัวเลข)” โดยจะแบ่งความสามารถในการป้องกันออกเป็นตัวเลข
มีทั้งหมด 8
ระดับ
ยิ่งถ้าเลขมากก็จะป้องกันได้สูง แต่ถ้าการใช้ทั่ว ๆ ไป
ป้องกันอย่างมากที่สุดแค่น้ำฝน ใช้แค่ระดับ 4 ก็พอครับ
มาตรฐานรับรองการกันฝุ่น หรือที่เรียกว่า “IP(ตัวเลข)X” แบ่งความสามารถในการป้องกันออกเป็น 6 ระดับ
โดยระดับที่เพียงพอสำหรับการใช้งานลำโพง แค่ 4 ก็ครอบคลุมแล้วครับ
ด้วยความที่ลำโพงขนาดเล็กนั้นสะดวกต่อการพกพา
ทำให้ถูกเคลื่อนย้ายบ่อย ๆ โอกาสที่ผลิตภัณฑ์จะกระแทกกับสิ่งของต่าง ๆ หรือหล่นตกพื้นขณะเดินทางย่อมมีสูง
ดังนั้นจึงอย่าลืมเช็คความคงทนของรุ่นนั้น ๆ ผ่านการอ่านรีวิวให้ได้มากที่สุด
และที่สำคัญควรเลือกซื้อรุ่นที่มีใบรับประกันรับรอง
หากเกิดความเสียหายอะไรจะได้ขอเปลี่ยนคืนได้
แต่ต้องเช็คระยะเวลาและเงื่อนไขที่คุ้มครองด้วยนะคะ จะได้ไม่เสียผลประโยชน์
10 อันดับ ลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก
ยอดฮิตขายดีที่สามารถซื้อออนไลน์ได้
10. Beats Pill+ Portable Speaker
ราคา 7,990 บาท
ให้เสียงเสมือนจริงเหมือนสเตริโอ
พร้อมไมโครโฟนใช้สนทนาและแบตเตอรี่สุดถึก
ลำโพงบลูทูธขนาดเล็กรุ่นนี้มีเสียงสเตริโอระบบ Crossover แบบแอคทีฟ 2 ทิศทาง
ช่วยเพิ่มมิติให้กับการฟังเพลง มาพร้อมไมโครโฟน ช่วยให้คุณสามารถสนทนาโทรศัพท์แบบ Hand free ได้อย่างง่ายดาย
โดยแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานถึง 12 ชั่วโมงหลังจากชาร์จเต็ม
3 ชั่วโมง
ซึ่งหลายคนที่ใช้ต่างการันตีว่าคุณภาพเสียงดี ให้เสียงเหมือนจริง พกพาง่าย ใช้งานสะดวกและยังมีหลายสีให้เลือกซื้อด้วยครับ
ขนาด
|
2.5 x 2.72 x 8.27 นิ้ว
|
น้ำหนัก
|
ไม่ได้ระบุ
|
กันน้ำ
| x |
กันฝุ่น
|
x
|
Bluetooth version
|
ไม่ระบุ
|
ราคา 499 บาท
เสียงใสตอบโจทย์ดนตรีทุกแนว ราคาย่อมเยา พกพาไปได้ทุกที่
เสียงใสตอบโจทย์ดนตรีทุกแนว ราคาย่อมเยา พกพาไปได้ทุกที่
ถ้าพูดถึงลำโพงขนาดเล็กจิ๋วมาแรง
จะไม่พูดถึงรุ่นนี้คงไม่ได้เพราะเขาถูกออกแบบมาให้เล็กกว่าฝ่ามือ
น้ำหนักเบาเพียงแค่ 58 กรัม
วัสดุทำจากอลูมิเนียม ดูเรียบง่ายแต่ซ่อนความหรูหรา
ส่วนคุณภาพเสียงก็ถือว่าทำได้ดี เพียงพอตอบโจทย์ความต้องการของคนส่วนใหญ่
ใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 4 ชม.
ที่สำคัญราคาย่อมเยามาก เสียอย่างเดียวไม่มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงในตัว
ขนาด
|
52 x 52 x 25 มม.
|
น้ำหนัก
|
58 กรัม
|
กันน้ำ
|
x
|
กันฝุ่น
|
x
|
Bluetooth version
|
ไม่ระบุ
|
8. Mifa F1 Colorful Portable Speaker
ราคา 713 บาท
เพิ่มคุณภาพเสียงให้หนักแน่นด้วย Passive radiator มีสายคล้องช่วยให้พกพาสะดวก
เพิ่มประสิทธิภาพของ Passive radiator เพื่อให้คุณภาพเสียงที่หนักแน่นและสมจริงมากขึ้น ขนาดกะทัดรัด มีหลายสีให้เลือกซื้อ มาพร้อมห่วงคล้องขนาดพอเหมาะ ช่วยให้เกี่ยวกับหูเข็มขัดหรือสายกระเป๋าเป้ได้ง่ายขึ้น จึงเหมาะกับการพกพา ซึ่งหลายคนรีวิวไว้ว่าเสียงดังพอเหมาะ เปิดดังสุดก็ไม่แตก ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าจับตามองเชียวครับ
เพิ่มคุณภาพเสียงให้หนักแน่นด้วย Passive radiator มีสายคล้องช่วยให้พกพาสะดวก
เพิ่มประสิทธิภาพของ Passive radiator เพื่อให้คุณภาพเสียงที่หนักแน่นและสมจริงมากขึ้น ขนาดกะทัดรัด มีหลายสีให้เลือกซื้อ มาพร้อมห่วงคล้องขนาดพอเหมาะ ช่วยให้เกี่ยวกับหูเข็มขัดหรือสายกระเป๋าเป้ได้ง่ายขึ้น จึงเหมาะกับการพกพา ซึ่งหลายคนรีวิวไว้ว่าเสียงดังพอเหมาะ เปิดดังสุดก็ไม่แตก ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าจับตามองเชียวครับ
ขนาด
|
81 x 81 x 38 มม.
|
น้ำหนัก
|
202 กรัม
|
กันน้ำ
|
x
|
กันฝุ่น
|
x
|
Bluetooth version
|
2.1
|
7. Bose SoundLink Micro Bluetooth Speaker
ราคา 4,590 บาท
มีสายรัดช่วยให้พกพาสะดวก
กันน้ำได้ถึง IPX7 และคงทนด้วยซิลิโคนห่อหุ้ม
คุณภาพเสียงดีเยี่ยมด้วย Passive Radiators มาพร้อมดีไซน์สุดทันสมัย มีสายรัด
ช่วยให้คุณรัดลำโพงกับจักรยานหรือกระเป๋าเป้ได้สะดวก สามารถไปกับคุณได้ทุกที่
แถมวัสดุตัวเครื่องยังห่อหุ้มด้วยซิลิโคนเพื่อกันกระแทกและป้องกันรอยขีดข่วน
ซึ่งคนที่ใช้จริงรีวิวไว้ว่าเสียงใสและเก็บบีทหนัก ๆ ได้ดี
ขนาด
|
3.87 x 3.87 x 1.37 นิ้ว
|
น้ำหนัก
|
289 กรัม
|
กันน้ำ
| x |
กันฝุ่น
|
x
|
Bluetooth version
|
ไม่ระบุ
|
6. Mifa F7 Bluetooth 4.0 Speaker
ราคา 1,195 บาท
แข็งแรงคงทนเพราะทำจากอลูมิเนียมและ
TPU กันน้ำกันฝุ่น
รุ่นนี้โดดเด่นเพราะผลิตมาจากอลูมิเนียมคุณภาพสูงและ TPU จึงมีความคนทนสูง แต่กลับน้ำหนักเบา
พร้อมมีห่วงคล้อง ช่วยให้พกพาสะดวก แถมยังมีเสียงแบบสเตริโอ
เก็บรายละเอียดแม้บีทหนัก คุณภาพจึงสมจริง ซึ่งทำงานด้วยฮาร์ดแวร์ DSP นอกจากนี้ยังรับส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วด้วย
Bluetooth
เวอร์ชันใหม่
ไม่น่าแปลกใจที่ทุกคนบอกว่าเสียงเพราะ เน้นเสียงทุ้มเป็นหลัก
เหมาะกับการฟังเพลงร็อคหรือฮิปฮอป
ขนาด
|
131x 82 x 42 นิ้ว
|
น้ำหนัก
|
301 กรัม
|
กันน้ำ
|
IPX6
|
กันฝุ่น
|
IP5X
|
Bluetooth version
|
4.0
|
5. Sony Speaker Bluetooth SRS-XB10/BC E
ราคา 2,745.52 บาท
เสียงหนักแน่นด้วยเทคโนโลยี EXTRA BASS มาพร้อมห่วงคล้องไว้ห้อย
ลำโพงไร้สายจากแบรนด์ที่โดดเด่นในเรื่องเครื่องเสียง
ตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 20 Hz – 20 kHz มีเทคโนโลยี EXTRA BASS เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโทนเสียงต่ำ
ดีไซน์ทันสมัยมีหลายสีให้เลือกซื้อ
มาพร้อมห่วงคล้องช่วยให้คุณพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก นอกจากนี้ยังใช้งานง่าย
คุณภาพเสียงดังชัดเจน เหมาะกับการฟังเพลงที่เน้นบีทหนัก ๆ
ขนาด
|
75 x 91 นิ้ว
|
น้ำหนัก
|
260 กรัม
|
กันน้ำ
|
IPX5
|
กันฝุ่น
|
x
|
Bluetooth version
|
ไม่ระบุ
|
4. Mi Bluetooth Speaker
ราคา 1,350 บาท
ตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 85 Hz-20 kHz สามารถใช้สนทนาได้
มาต่อกันที่รุ่นนี้ สามารถตอบสนองความถี่ได้ตั้งแต่ 85 Hz-20 kHz ด้วยระบบเสียงแบบสเตริโอ
มาพร้อมไมโครโฟน ช่วยให้คุณสามารถสนทนาแบบ Hand free ได้
โดยสามารถใช้ฟังเพลงได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 8 ชั่วโมง
(ขึ้นอยู่กับแนวเพลงและความดังที่ฟัง) นอกจากนี้ยังมีหลายสีให้เลือกซื้อ
เข้าได้กับทุกรสนิยม
ขนาด
|
58x 24.5 x 168 มม.
|
น้ำหนัก
|
270 กรัม
|
กันน้ำ
|
IPX6
|
กันฝุ่น
|
x
|
Bluetooth version
|
x
|
3. Sony SRS-XB01
ราคา 990 บาท
พลังเสียงหนักแน่น กันน้ำ IPX5 จิ๋วแต่แจ๋ว
อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจจากแบรนด์นี้ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี EXTRA BASS™ และพาสซีฟเรดิเอเตอร์
ช่วยเพิ่มพลังของเสียงต่ำให้หนักแน่นมากขึ้น ทำให้คุณได้อรรถรสในการฟังเพลง
มาพร้อมดีไซน์สวยหรู ขนาดเล็กจิ๋ว มีสายคล้อง ช่วยให้พกพาสะดวก แข็งแรงคงทน
นอกจากนี้ยังใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 6 ชั่วโมง
จึงไม่น่าแปลกใจที่ใคร ๆ ต่างหลงรักรุ่นนี้ครับ
ขนาด
|
81.5x 57.5 x 56.5 มม.
|
น้ำหนัก
|
160 กรัม
|
กันน้ำ
|
IPX5
|
กันฝุ่น
|
x
|
Bluetooth version
|
4.2
|
2. JBL Go+
ราคา 1,490 บาท
สนทนาได้ มีระบบ Noise Cancelling สำหรับการตัดเสียงรบกวน
ใครที่กำลังมองหาลำโพงที่สามารถฟังเพลงและสนทนาได้อย่างมีประสิทธิภาพแนะนำให้ลองซื้อรุ่นนี้ไปใช้ดูเลยค่ะ
เพราะมีไมโครโฟน มาพร้อมระบบ Noise Cancelling สำหรับการตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา ขณะเดียวกันดีไซน์ยังทันสมัย
ผลิตมาจากวัสดุคงทน เคลือบผิวถึง 2 ชั้น
นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานอย่างต่อเนื่องได้นานถึง 5 ชั่วโมง
หลายคนที่ใช้จริงต่างบอกว่าคุณภาพเสียงค่อนข้างดี ครบครันทั้ง 3 โทนเสียง เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
ขนาด
|
6.83 x 8.28 x 3.07 ซม.
|
น้ำหนัก
|
210 กรัม
|
กันน้ำ
| x |
กันฝุ่น
|
x
|
Bluetooth version
|
4.1
|
1. JBL CLIP2
ราคา 3,438 บาท
เสียงใส
มีระบบตัดเสียงรบกวน รับส่งข้อมูลรวดเร็วด้วย Bluetooth
4.2
อันดับ 1 จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากรุ่นนี้ค่ะ
เพราะคุณสมบัติครบครันในหนึ่งเดียว
ไม่ว่าจะวัสดุที่ผลิตมีความแข็งแรงคงทนแต่กลับมีน้ำหนักเบา มาพร้อมห่วงคล้อง
ช่วยให้พกติดตัวไปได้ทุกที่ ส่วนคุณภาพเสียงยังคับแน่น มีระบบ Noise และ Echo Cancelling สำหรับตัดเสียงรบกวนขณะโทรศัพท์
นอกจากนี้ยังรับส่งข้อมูลได้รวดเร็ว คนที่ใช้จริงต่างบอกว่าคุณภาพคับตัว
เน้นเสียงใส เหมาะกับการฟังเพลงทั่ว ๆ ไป
ขนาด
|
6.83 x 8.28 x 3.07 ซม.
|
น้ำหนัก
|
210 กรัม
|
กันน้ำ
| x |
กันฝุ่น
|
x
|
Bluetooth version
|
4.1
|