10 อันดับ Bluetooth Headphone

10 อันดับ Bluetooth Headphone หูฟังไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ฉบับล่าสุดปี 2020

เมื่อเราต้องการจะเพลิดเพลินกับการฟังเพลงโดยไม่อยากให้สายของ Headphone มาเกะกะให้กวนใจ ปัจจุบันก็มีการออกแบบ Headphone แบบ Wireless มาเพื่อตอบสนองความต้องการนี้เพิ่มความสะดวกสบายให้เรามากขึ้น และหลาย ๆ แบรนด์ เช่น Beat , Sony หรือ Bose ก็มีฟังก์ชันพิเศษต่าง ๆ ออกมาวางขายอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันการกันน้ำหรือตัดเสียงรบกวน เป็นต้น
ทำให้มีคนไม่น้อยเลยที่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ Bluetooth Headphone อย่างไรดี ดังนั้นในครั้งนี้เราจึงได้จัดอันดับ Bluetooth Headphone หูฟังไร้สาย 10 อันดับ พร้อมข้อมูลราคาและคุณภาพเสียงมาให้ทุก ๆ คนได้พิจารณากัน และเพื่อให้ง่ายต่อการหาซื้อเราได้เลือกช่องทางในการหาซื้อออนไลน์มาให้ทุกคนด้วยค่ะ และนอกจากนั้นหากใครต้องการจะหาซื้อ Bluetooth Headphone ในแบบของตัวเองเราก็มีวิธการเลือกซื้อมาแนะนำทุก ๆ คนด้วยเช่นกัน


วิธีการเลือกซื้อหูฟังไร้สาย
ในการเลือกซื้อหูฟังไร้สาย Bluetooth Headphone เราต้องเข้าใจเกี่ยวกับระบบ Bluetooth ไปจนถึงโครงสร้างคร่าว ๆ ของเจ้าหูฟังกันก่อน เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะเข้าสู่การแนะนำอันดับหูฟังไร้สายเราจะมาอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับหูฟังไร้สาย Bluetooth Headphone กันก่อน มาทำความเข้าใจด้วยกันนะคะ

เช็คองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของเสียง
แน่นอนว่าสิ่งที่ควรให้ความสำคัญสำหรับ Headphone ก็คือเรื่องคุณภาพของเสียง นอกจากตรวจสอบ Codec และ Driver Unit แล้ว สิ่งที่เราควรเช็คก่อนเลือกซื้อมีอะไรกันบ้างนั้นไปดูกันได้เลยค่ะ

เลือกวัสดุของ Housing ที่เข้าระดับเสียงที่ชอบฟัง
Housing คือส่วนประกอบของ Headphone ที่ครอบหูของเราเอาไว้หรือ Ear Cups นั่นเอง ซึ่งวัสดุที่นำมาทำ Housing นั้นมี 3 ชนิดใหญ่ ๆ คือ พลาสติก, อลูมิเนียม, ทองเหลืองหรือสแตนเลส ซึ่งแต่ละชนิดก็มีเสน่ห์และคุณลักษณะที่แตกต่างกันไป
Housing พลาสติก จะเป็นตัวที่ราคาเบาที่สุดเหมาะการฟังเสียงระดับกลาง แต่ระดับเสียงสูง-ต่ำจะสื่อออกมาไม่ค่อยดีนัก เรียกได้ว่าเป็นหูฟังระดับปกติทั่วไป สำหรับ Housing อลูมิเนียม จะให้เสียงสูงได้ดีกว่าแบบพลาสติกแต่การสะท้อนจะน้อย เสียงจะไม่ค่อยกังวาน เหมาะกับเสียงเบา ๆ ส่วน Housing ทองเหลืองหรือสแตนเลสจะเหมาะกับคนที่ฟังเพลงร็อค, เฮาส์ เสียงต่ำจะไม่แน่นเท่าไหร่แต่เสียงสูงจะสื่อออกมาได้ดีแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด เมื่อทราบแล้วลองเลือกชนิด Housing ตามลักษณะเสียงที่คุณชอบฟังดูนะคะ

โครงสร้างของ Housing เลือกแบบ Open Air หรือ Closed ดี?
โครงสร้างของ Housing มีสองประเภทคือ Closed และ Open Air แบบ Open Air จะให้เสียงใสชัดเจน เหมาะกับคนที่ต้องการหูฟังคุณภาพเสียงดี ส่วนแบบ Closed จะเก็บเสียงได้ดีสามารถนำไปใช้ข้างนอกได้ง่ายไม่รบกวนผู้คนรอบข้าง แต่หากใช้เป็นเวลานานอาจทำให้หูล้าได้

เลือก Codec ระดับ AAC ขึ้นไป
เวลาที่เราส่งผ่านเสียงโดยระบบบลูทูธ จะต้องมีการบีบอัดไฟล์เสียงต้นทาง ซึ่งเป็นหน้าที่ของตัวแปลงสัญญาณ (Codec) และตัวแปลงสัญญาณนี้จะเป็นตัวกำหนดคุณภาพของเสียงและระยะเวลาการรับส่งสัญญาณ
ปัจจุบัน Codec จะมี 4 ประเภทไล่ตามคุณภาพเสียงจากต่ำไปสูงคือ SBC < AAC < apt-X < LDAC หากเลือกหูฟังไร้สายที่ราคาย่อมเยาส่วนใหญ่นั้นจะใช้ตัวแปลงสัญญาณแบบ SBC ซึ่งให้คุณภาพเสียงที่ไม่ดีและระยะเวลารับส่งสัญญาณช้าไปประมาณ 0.5 วินาที หากใช้ในการฟังเพลงหรือวิทยุทั่วไปก็ไม่ถือเป็นปัญหาอะไร แต่หากใช้ในการดูหนังดุทีวีล่ะก็ อาจจะรู้สึกได้เลยว่าเสียงกับภาพไม่ตรงกัน
ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวส่งสัญญาณก็มีส่วนสำคัญ หากตัวสัญญาณกับหูฟังที่รับสัญญาณมี Codec ที่ไม่ตรงกันก็ไม่มีความหมาย ดังนั้นคุณต้องเช็คก่อนว่าอุปกรณ์เสียงที่คุณใช้อยู่มี Codec ประเภทใดแล้วจึงค่อยเลือกหูฟังที่เหมาะสมค่ะ
เลือกขนาดดอกลำโพง (Driver Unit) ที่ 40 mm

เรียกได้ว่าดอกลำโพง (Driver Unit) คือหัวใจของหูฟังก็ว่าได้ จริงอยู่ว่ายิ่งดอกลำโพงขนาดใหญ่มากเท่าไรคุณภาพเสียงก็จะดีขึ้นมากเท่านั้น แต่ข้อเสียก็คือน้ำหนักและแรงกดต่อหูก็จะเพิ่มตามมาด้วย ดังนั้นเราแนะนำว่าขนาดลำโพงที่กำลังดีจะอยู่ที่ประมาณ 40 mm ลองหาลำโพงคู่ใจโดยเปรียบเทียบเอาดูระวังคุณภาพเสียงที่ถูกใจและความสบายเมื่อสวมนะคะ

เลือกจากฟังก์ชัน
เมื่อดูเรื่องคุณภาพของเสียงให้เหมาะกับตัวเองแล้ว สิ่งที่ควรจะดูต่อไปก็คือเรื่องฟังก์ชันต่าง ๆ ในการทำงานเพื่อให้การใช้งานหูฟังไร้สายสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องและแบตเตอรี่
คนที่ใช้หูฟังระหว่างเดินทางไปเรียนหรือไปทำงาน หรือพกติดตัวไปเที่ยวไหน ๆ ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกหูฟังที่ใช้งานต่อเนื่องได้นานมากกว่า 8 ชั่วโมงขึ้นไป จะได้หมดกังวลเรื่องแบตจะหมดกลางทางค่ะ
ในบางครั้งเมื่อใช้งานไปนาน ๆ แบตเตอรี่ก็จะเสื่อมสภาพลงทำให้ระยะเวลาในการใช้งานต่อการชาร์จหนึ่งครั้งสั้นลงไปด้วย ทางที่ดีถ้าใครมีงบ ก็ควรเลือกหูฟังระดับดี ๆ ชนิดที่สามารถถอดแบตเตอรี่เปลี่ยนได้ แต่ก็ต้องบอกไว้ก่อนว่าราคาแบตเตอรี่อย่างเดียวก็แพงอยู่เหมือนกันค่ะ


ฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน (Noise Cancelling) เหมาะสำหรับใช้ภายนอก



ในสถานการณ์ที่เราต้องเผชิญกับเสียงรบกวนต่าง ๆ ภายนอกมากมาย ฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนถือว่าเป็นตัวช่วยที่น่าสนใจ โดยฟังก์ชันนี้จะช่วยลดเสียงรอบข้างที่จะแทรกเข้ามาในหูฟังได้ ทำให้คุณได้ฟังเสียงที่ชัดเจนและดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องใช้บริการการขนส่งสาธารณะ
แต่หูฟังที่มาพร้อมฟังก์ชันในการตัดเสียงรบกวนนี้ก็ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีทั้งหมด เนื่องจากจะไม่ได้ยินเสียงจากรอบข้าง เวลาเกิดเหตุอันตรายหรือเหตุฉุกเฉินก็จะทำให้คุณไม่ได้ยินเสียงสัญญาณต่าง ๆ ไปด้วย จนอาจจะทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ อีกอย่างก็คือถ้าหากใส่หูฟังนาน ๆ หลายคนอาจจะรู้สึกอึดอัดและเกิดอาการล้าหรืออาจปวดหัวได้ เพราะฉะนั้นเวลาใช้ฟังก์ชันนี้ควรเลือกใช้ตามช่วงเวลาหรือสถานที่ ๆ จำเป็นต้องใช้ ให้เวลาหูพักบ้างเป็นช่วง ๆ ก็จะดีค่ะ

เลือกหูฟังที่ใช้งานได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย
สำหรับใครที่ใช้ Bluetooth Headphone ไร้สายเมื่ออยู่ข้างนอก แต่อยากใช้หูฟังแบบมีสายเพื่อเสียงที่คมชัดกว่าเมื่ออยู่ในตัวอาคาร เราขอแนะนำให้เลือกซื้อหูฟังชนิดที่สามารถใช้งานได้ทั้งสองลักษณะแค่เพียงถอด-เสียบสายค่ะ
แต่ไม่ใช่ว่าการที่นำหูฟังไร้สายมาเสียบต่อสายแล้วจะทำให้คุณภาพเสียงดีเสมอไปนะคะ หากคุณต้องการคุณภาพเสียงที่ดีก็อย่าลืมเช็ค Driver Unit และ Housing ของหูฟังกันด้วยนะคะ

เรื่องที่ควรทราบเกี่ยวกับ Bluetooth
เวอร์ชั่นของบลูทูธมีอยู่หลายเวอร์ชั่น ยิ่งตัวเลขมากเท่าไหร่ก็แสดงถึงความใหม่ของเวอร์ชั่นและฟังก์ชันการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น เวอร์ชั่นใหม่ ๆ สามารถรองรับรุ่นเก่าก่อนหน้าได้จึงไม่เป็นปัญหาใหญ่อะไร แต่หากทั้งตัวส่งและตัวรับไม่สามารถรองรับเวอร์ชั่นใหม่ได้ก็จะทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานไม่ดีเท่าที่ควร หากใครต้องการบลูทูธที่มีคุณภาพสูงแล้วล่ะก็ต้องตรวจสอบดูด้วยว่าอุปกรณ์ที่คุณมีอยู่และตัวรับสัญญาณบลูทูธรองรับเวอร์ชั่นกันได้หรือไม่


10 อันดับ Bluetooth Headphone หูฟังไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ที่สามารถซื้อออนไลน์ได้

อันดับที่ 10. 


JBLT450 BT

2,490 บาท


หูฟังสีสดใส น้ำหนักเบาพกพาง่าย แบรนด์ที่คุ้นเคย กับราคาสบายกระเป๋า
แบรนด์ที่หลาย ๆ คนคงนึกออกกันได้ไม่ยากด้วยดีไซน์ของสินค้าที่มักจะออกมาโด่ดเด่นสดใสตอบสนองยุคสมัยและแฟชั่นปัจจุบันเสมอ ๆ อย่าง JBL และเช่นเดียวกันในครั้งนี้ Headphone รุ่นนี้ก็ยังคงมาพร้อมดีไซน์ที่สดใสเช่นเคย และออกแบบมาเพื่อพกพาออกไปข้างนอกอย่างแท้จริง ด้วยวัสดุทีมีคุณภาพ น้ำหนักเบา ให้ความรู้สึกสบายเมื่อสวมใส่ ในราคาน่ารักที่ทุกคนเอื้อมถึง
รุ่นนี้มาพร้อมระบบบลูทูธ 4.0 คุณภาพเสียงที่คมชัด ให้เสียงเบสที่หนักแน่น มีปุ่มควบคุมการทำงานที่แสนจะเรียบง่าย ออกแบบมาให้สามารถหมุนและพับเก็บได้อย่างสะดวก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพกพาเจ้าหูฟังไร้สายให้กลายเป็นอีกหนึ่ง Accessory ของคุณ

Codec
ไม่ระบุ
Driver Unit
32 mm
Noise Cancelling
                      ✘
ใช้ได้ทั้งแบบ มีสาย – ไร้สาย
ระยะเวลาใช้งานต่อเนื่อง
11 ชั่วโมง
Bluetooth
4.0

อันดับที่ 9.

BeatsStudio 3 Wireless

12,500 บาท





คุณภาพเสียงเบสที่เหนือชั้น มาพร้อมฟังก์ชันพิเศษสำหรับสาวก iOS โดยเฉพาะ

สาวก iOS น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักผลิตภัณฑ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเติมเต็มด้านการฟังเพลงของสินค้า Apple อย่างยี่ห้อ Beats นอกจากคุณภาพเสียงที่เลื่องชื่อว่าแน่นเน้นเบส มีระบบ Pure ANC ซึ่งช่วยในการตัดเสียงรบกวนภายนอกออกไป ทำให้ได้อรรถรสในการฟังเพลงที่ดียิ่งขึ้น มีไมโครโฟนติดมาด้วยทำให้ใช้ในการคุยโทรศัพท์ได้ และใช้ Siri ในการควบคุมซึ่งมากับระบบของ Apple ด้วย
สำหรับแบตเตอรี่สามารถใช้งานยาวนานสุดได้ถึง 40 ชั่วโมง (22 ชั่วโมงเมื่อเปิด Pure ANC ) มาพร้อมกับระบบการชาร์จแบบเร็วแค่เพียง 10 นาทีก็สามารถชาร์จพลังงานเพียงพอสำหรับการใช้งานได้ถึง 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว นี่คืออีกหูฟังคุณภาพที่สาวก iOS ไม่ควรพลาด แต่ถ้าค่ายอื่นอาจจะรู้สึกใช้ไม่สะดวกบ้างนะคะ

Codec
AAC
Driver Unit
50 mm
Noise Cancelling
                  ✔
ใช้ได้ทั้งแบบ มีสาย – ไร้สาย
ระยะเวลาใช้งานต่อเนื่อง
40 ชั่วโมง
Bluetooth
ไม่ระบุ 

อันดับที่ 8.

X-MiniEvolve 2

3,990บาท


เบสหนักแน่น เป็นทั้งหูฟังและลำโพงในหนึ่งเดียว ใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมง

X-Mini Evolve 2 เป็นหูฟังไร้สาย Headphone ที่ออกแบบมาเพื่อใครที่เน้นเรื่องความคุ้มค่าอย่างแท้จริง เพราะเจ้าหูนี้ มาพร้อมกับฟังก์ชันความพิเศษที่ค่อนข้างมากเลยทีเดียว เริ่มด้วยคุณสมบัติของหูฟังไร้สายในระบบบลูทูธ 4.1 คุณภาพเสียงในการฟังที่ดีพร้อมพลังเสียงเบสที่หนักแน่น
นอกจากนั้นแล้วยังสามารถกลายร่างเป็นลำโพงบลูทูธได้ด้วยเช่นกันโดยมี Driver แยกระหว่างโหมดลำโพงและโหมดหูฟังทำให้ไม่ทำลายคุณภาพของเสียง ที่พิเศษอีกอย่างคือมีไมโครโฟนในตัวด้วยช่วยให้สะดวกในการติดต่อสื่อสาร และแบตเตอรี่ในการใช้งานในโหมดของหูฟังไร้สายนั้นก็อยู่ได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมงเลยทีเดียว เสียแต่ว่ายังเป็นแบรนด์ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไรนักค่ะ

Codec
apTX
Driver Unit
40 mm
Noise Cancelling
                   x
ใช้ได้ทั้งแบบ มีสาย – ไร้สาย
ระยะเวลาใช้งานต่อเนื่อง
30 ชั่วโมง
Bluetooth
4.1

อันดับที่ 7.

V-MODACrossfade 2

12,400 บาท



หูฟังสายดีเจ ลำโพงขนาดใหญ่ วัสดุคุณภาพสูงในดีไซน์ที่ล้ำยุค จัดเต็มทุกรูปแบบเสียง

V-Moda ถือว่าเป็นแบรนด์ยุคใหม่ที่มีคอนเซ็ปที่น่าสนใจค่ะ เป็นผลิตภัณฑ์ของอเมริกาที่ดีไซน์ในยุโรป เดิม ๆ ต้องการพัฒนามาให้เป็นหูฟังสำหรับ DJ หรือนักเล่นแผ่น รูปลักษณ์จึงออกแนวเท่ห์ ๆ ทันสมัย โดยเฉพาะสีดำแมตต์นั้นเป็นที่ต้องตาใครหลายคน แถมฝา Ear Cups นั้นสามารถเปลี่ยนได้ด้วยค่ะ
หลายคนอาจจะคิดว่าเส้นเสียงก็จะออกไปทางแนวเพลงตื๊ด ๆ EDM อย่างเดียวแต่ว่าเปล่าค่ะเธอเหมาหมด ขนาด Acoustic ก็สื่อสารออกมาได้ดี จุดเด่นหลัก ๆ คือลำโพงขนาดใหญ่ถึง 50 mm ส่งความสดและมีมิติของเสียงให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในคอนเสิร์ตก็ว่าได้ ดังนั้นจะใช้ดูหนัง เล่นเกมส์ด้วยก็ไม่มีปัญหาค่ะ

Codec
apTX
Driver Unit
50 mm
Noise Cancelling
                     x
ใช้ได้ทั้งแบบ มีสาย – ไร้สาย
ระยะเวลาใช้งานต่อเนื่อง
14 ชั่วโมง
Bluetooth
3.0

อันดับที่ 6. 

MarshallMajor III

5,490 บาท


หูฟังคุณภาพเสียงแน่น บนดีไซน์คลาสสิค พับเก็บพกพาง่าย ใช้งานต่อเนื่องได้นาน

หากพูดถึงเรื่องของลำโพงหรือหูฟังแล้วหนึ่งในแบรนด์แรก ๆ ที่หลายคนนึกถึงมี Marshall อยู่ด้วยแน่นอน ด้วยคุณภาพของเสียงที่เป็นที่ยอมรับซึ่งมาพร้อมกับดีไซน์คลาสสิคเป็นเอกลักษณ์ รุ่นนี้ถือเป็นรุ่นที่ราคาค่อนข้างเบาสำหรับยี่ห้อนี้
สำหรับรุ่นนี้ก็ถูกออกแบบมาให้ทั้งคุณภาพเสียงและการใช้ง่ายพัฒนาขึ้นกว่าเดิม เสียงเบสที่นุ่มนวลแต่หนักแน่น เสียงกลางที่ละเอียดมากขึ้น ตัวหูฟังสามารถพับเก็บได้ง่ายต่อการพกพา แบตเตอรี่การใช้งานอยู่ที่ 30 ชั่วโมงถือว่าค่อนข้างมากทีเดียว หากใครสนใจยี่ห้อนี้อยู่ รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ถือว่าคุ้มค่าในราคาที่หลายคนจับต้องได้

Codec
apTX
Driver Unit
40 mm
Noise Cancelling
                     x
ใช้ได้ทั้งแบบ มีสาย – ไร้สาย
ระยะเวลาใช้งานต่อเนื่อง
30 ชั่วโมง
Bluetooth
ไม่ระบุ

อันดับที่ 5.

Bowers & WilkinsPX

18,900 บาท



หูฟังแบรนด์ระดับตำนาน หรูหราทั้งรูปทรงและเส้นเสียง พร้อมโหมดประหยัดพลังงาน
ในขณะที่หูฟังปัจจุบันหันไปทำ Housing ด้วยพลาสติกแข็งกันเป็นส่วนใหญ่ แต่แบรนด์คลาสสิกตลอดกาลอย่าง B&W ก็ยังคงพิถีพิถันกับทุกองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ ทำให้ได้มาซึ่งหูฟังไร้สายระดับพรีเมี่ยม Housing อลูมิเนียม รูปลักษณ์และคุณภาพเสียงระดับหูทองตัวนี้
เส้นเสียงที่กลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ผนวกกับระบบตัดเสียงรบกวนที่มีคุณภาพ อีกทั้งประกอบกับ Codec ระดับ aptX ส่งเสริมประสบการณ์ทางเสียงของคุณให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น หูฟังจะเข้าโหมดประหยัดพลังงานอัตโนมัติเมื่อคุณวางทิ้งไว้และกลับเข้าทำงานตามเดิมเมื่อหยิบมาใส่ หากใครที่เป็นแฟนอุปกรณ์เสียงระดับ World Class จะเริ่มจากการซื้อหูฟังตัวนี้ก่อนก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีค่ะ

Codec
apTX
Driver Unit
40 mm
Noise Cancelling
                       x
ใช้ได้ทั้งแบบ มีสาย – ไร้สาย
ระยะเวลาใช้งานต่อเนื่อง
22 ชั่วโมง
Bluetooth
4.1

อันดับที่ 4.

SennheiserMomentum

18,900 บาท




           ดีไซน์ไม่เหมือนใคร วัสดุคุณภาพเยี่ยมที่ทนทาน ให้เสียงคุณภาพระดับ Hi-Res
Sennheiser เป็นแบรนด์ระดับพรีเมี่ยมอีกแบรนด์หนึ่งจากเยอรมัน ที่ผสมผสานงานศิลปะกับการผลิตหูฟังเข้าไว้ด้วยกัน ดูได้จากดีไซน์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร Momentum ตัวนี้เป็นรุ่นที่ 2 รู้จักในอีกชื่อนึงคือ M2 AEBT
ทำจากวัสดุชั้นดี ส่วน Ear Cups ที่ทำจากหนังแท้บุไว้นุ่มหนา ให้คุณได้สวมใส่อย่างสบายไม่ล้าหูง่าย ๆ ก้านหูฟังทำจากสแตนเลสขัดหยาบที่ทนทานไม่ต้องกลัวหักเสียหายเมื่อพกพาในขณะที่มีน้ำหนักเบา ที่พลาดไม่ได้คือเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ระดับ Hi-Res มีน้ำหนัก เต็มไปด้วยรายละเอียดเสียงที่สื่อความรู้สึกได้ดีเหมาะกับคนที่รักในการฟังเพลงแน่นอนค่ะ

Codec
apTX
Driver Unit
ไม่ระบุ
Noise Cancelling
                    ✔
ใช้ได้ทั้งแบบ มีสาย – ไร้สาย
ระยะเวลาใช้งานต่อเนื่อง
22 ชั่วโมง
Bluetooth
4.0

อันดับที่ 3.

BOSEQuietComfort 35ll

15,900 บาท 

อรรถรสแห่งการฟังเพลงอย่างแท้จริงด้วยคุณภาพเสียงระดับพรีเมียม พร้อมไมโครโฟน

BOSE เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอย่างมากในผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นลำโพงหรือหูฟัง ด้วยคุณภาพเสียงที่ทำออกมาได้ดี เหมาะกับการฟังทุกรูปแบบทุกสไตล์ ให้การฟังของคุณเพลิดเพลินและลื่นไหล การออกแบบที่เรียบง่ายพร้อมปุ่มควบคุมครบครันและวัสดุที่ทนทานสมราคา มาพร้อมกับไมโครโฟนสำหรับการสนทนาซึ่งให้เสียงที่ชัดเจนเช่นเดียวกัน
สามารถเชื่อมต่อกับระบบผู้ช่วยที่ชาญฉลาดอย่าง Alexa, Google Assistant ให้คุณสั่งงานได้ด้วยเสียง มีแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 20 ชั่วโมง หากใครกำลังมองหาหูฟังที่ให้เสียงคุณภาพสูงตอบสนองการฟังเพลงได้อย่างดี ลองพิจารณาเจ้าตัวนี้กันได้นะคะ

Codec
apTX
Driver Unit
40 mm
Noise Cancelling
                   ✔
ใช้ได้ทั้งแบบ มีสาย – ไร้สาย
ระยะเวลาใช้งานต่อเนื่อง
20 ชั่วโมง
Bluetooth
4.2

อันดับที่ 2.

Audio-TechnicaATH-DSR7BT

11,900 บาท 

ลำโพงขนาดใหญ่ ให้พลังเสียงแม่นยำทุกระดับด้วยเทคโนโลยี Pure Digital

Audio-Technica ATH-DSR7BT แบรนด์ดังคุณภาพจากญี่ปุ่นที่มีพร้อมนวัตกรรม Pure Digital ตัวแรกของโลก ให้พลังเสียงที่ไพเราะแม่นยำไม่มีผิดเพี้ยน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับแนวเพลงที่โชว์รายละเอียดของเครื่องดนตรี หรือแนวฟังสบาย ๆ ต้องการเสียงที่ใสชัดเจนแต่อาจจะไม่เน้นเบสมากนัก
มาพร้อมฟังก์ชันควบคุมพื้นฐานและไมโครโฟน ในระบบ Bluetooth Version 4.2 รองรับ aptX และ NFC ดีไซน์ภายนอกเรียบง่ายและใส่สบายไม่กดทับหู สามารถพับเก็บได้ และปุ่มควบคุมที่ให้ความรู้สึกที่ทันสมัย การใช้งานต่อเนื่องอยู่ที่ 15 ชั่วโมง


Codec
apTX
Driver Unit
45 mm
Noise Cancelling
                 x
ใช้ได้ทั้งแบบ มีสาย – ไร้สาย
ระยะเวลาใช้งานต่อเนื่อง
15 ชั่วโมง
Bluetooth
4.2

อันดับที่ 1.

SonyWH-1000XM3

13,990 บาท 

หูฟังเสียงดี สุดยอดแห่งเทคโนโลยีป้องกันเสียงรบกวน ให้ Codec ระดับ LDAC

หูฟังจาก Sony แบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันดี สำหรับรุ่น WH-1000XM3 นี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่าประทับใจนักฟังจนเป็นที่กล่าวขานถึงทั่วโลก ที่ให้ Codec สูงสุดถึงระดับ LDAC เลยทีเดียวจึงมั่นใจถึงคุณภาพสียงที่คุณจะได้รับจากเจ้าตัวนี้แน่นอน
แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่นกว่าใครเลยคือเทคโนโลยีระบบการตัดเสียงรบกวนที่คุณภาพระดับท็อป ทำให้การใช้งานภายนอกของคุณไม่ว่าจะในรถ ตามท้องถนนหรือแม้กระทั่งบนเครื่องบินก็ไม่ส่งผลต่ออรรถรสการฟังของคุณได้ สามารถควบคุมการได้ยินออกเป็นลักษณะต่าง ๆ ได้ เช่น ได้ยินเฉพาะเสียงคน หรือจะได้ยินเสียงสภาพแวดล้อมภายนอก ด้วยคุณภาพที่สูงขนาดนี้เรียกได้ว่าไม่ว่าใครก็คงอยากจะลองสัมผัสประสบการณ์นี้เช่นกัน

Codec
LDAC
Driver Unit
40 mm
Noise Cancelling
                  ✔
ใช้ได้ทั้งแบบ มีสาย – ไร้สาย
ระยะเวลาใช้งานต่อเนื่อง
30 ชั่วโมง
Bluetooth
4.2

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น